ถ้าไม่ได้ที่นี่ จะทำยังไงต่อไป? If you fail this interview, what will you do next? เจอคำถามแบบนี้ วัดใจเบาๆเลยนะ แค่คุมสติให้ดีๆ 555 ลองนึกนะ ถ้าน้องตกจริงๆละ เราก็ต้องทำตามแผนสำรองใช่ไหม นั่นละ! อันนั้น! ลองดูตัวอย่างเลย If I fail this interview, I think I will consult my parents about what I should do next. I will try other choices because I really want to study about languages. ถ้าหนูตกสัมภาษณ์ คงจะปรึกษาพ่อแม่ค่ะ ว่าควรจะทำยังไงต่อไป หนูก็คงจะไปลองทางเลือกอื่นๆดู เพราะหนูอยากเรียนเกี่ยวกับภาษาจริงๆค่ะ สิ่งที่น้องๆทุกคนต้องทำเวลาสอบสัมภาษณ์ทุกกรณี! - ยิ้มเจ้าค่ะ ยิ้มไป อย่า panic ไม่งั้นอาจารย์จะเห็นชัดมากว่าเราประหม่า ไม่มั่นใจในตัวเอง - พูดความจริงทุกอย่างค่ะ เพราะว่าถ้าเราเมคเรื่องไป อาจดักตัวเองได้นะ และตอบไม่ได้นะ - รู้เท่าทันเหตุการณ์ปัจจุบันไว้บ้าง.. พี่เคยเกือบโป๊ะค่ะ ไปสัมภาษณ์คณะๆนึง ภาคอินเตอร์ อาจารย์ถามว่า คุณสนใจการเมืองใช่ไหม ละเข้าเรื่องเลยค่ะ โชคดีรู้ข่าวสาร เลยแสดงความคิดเห็นไปได้ค่ะ 555 - มีของดี ก็โชว์ไปเลย บางทีไม่เคร่งเรื่อง Portfolio ค่ะ แต่ถ้าเรามีดีอะไร ก็โชว์ไปเลยค่ะ อย่าปล่อยให้มันเฉาตายไปๆ ใช้ให้คุ้มค่ะ - ถ้าเป็นภาษาอังกฤษ อย่ากลัวพูดผิด!
คุณต้องการความช่วยเหลืออะไรไหม ประโยค Times up หมดเวลา ประโยค Got a minute? มีเวลาไหม? ประโยค At 3 o'clock เวลา 3 โมง ประโยค At 3 o'clock เวลา 3 โมง ประโยค Give me a certain time!
ที่รัก, เค้า-ตัวเอง, เบบี๋ (Baby) ฮันนี(Honey) หรือเรียกชื่อเล่นกัน จะแอบชมว่า 'น่ารัก' แต่เบื่อคำว่า 'cute' ใช้คำอะไรได้อีก?
ในปัจจุบันเป็นยุคที่มีการติดต่อสื่อสารอย่างรวดเร็ว การสมัครงานก็เช่นกัน เพราะบริษัทส่วนใหญ่มักจะให้เราส่ง resume ผ่านทาง E-mail ไปก่อนหลังจากนั้นค่อยเรียกไปสัมภาษณ์ วันนี้เราจึงมี เทคนิคที่จะทำให้เพื่อนๆ เขียน E-mail เป็นภาษาอังกฤษ อย่างง่ายๆและผ่านการคัดเลือกไปทำงานแน่นอน 1. อย่าฆ่าตัวตายด้วยชื่ออีเมล์เด็กอมมือ ชื่ออีเมล์ก็สำคัญไม่แพ้เนื้อหาข้างใน ควรใช้ชื่อที่เป็นกลาง เช่น ชื่อจริง – นามสกุลโดยไม่ต้องมีตัวเลข หรือตัวอักษรพิเศษ เพื่อแสดงถึงความเป็นมืออาชีพ คำหยาบคายหรือชื่อกุ๊กกิ๊ก ๆ สมัยมัธยมโยนทิ้งไปได้เลย 2. ชัดเจนกับชื่อเรื่อง (subject line) ควรระบุช่วงเวลา คำถาม หรือ จุดประสงค์ของอีเมลอย่างสั้นและกระชับ เช่น "Meeting on March 12th " หรือ "Job Application: …(Your name)…" เป็นต้น เพราะ ผู้รับจะไม่มีทางรู้เลยว่าอีเมลที่น้องส่งมาคืออะไร ถ้าปล่อยว่างเอาไว้ เขาอาจจะไม่เปิดอ่านเพราะคิดว่าเป็นไวรัสหรือสแปม ซึ่งมันจะทำให้เสียโอกาสไปเลย 3. ทักทายดีมีชัยไปกว่าครึ่ง เริ่มต้นเนื้อหาข้างในโดยการทักทายก่อน ในกรณีที่ป็นคนสนิทสนมกัน ใช้ Hi / Hello ต่อด้วยชื่อหรือไม่ก็ได้ ไม่มีปัญหา แต่หากเป็นการเขียนแบบทางการจะเข้มงวดขึ้นมาหน่อย ในกรณีที่รู้จักชื่อผู้รับ Dear Mr., Dear Mrs., Dear Miss.